ถึงโควิดจะหาย แต่ร่างกายยังได้รับผลกระทบอยู่

หลังจากที่ทั่วโลกได้รู้จักไวรัสสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 กันแล้วดูเหมือนว่าแต่ละวันจะมีความรู้ใหม่ๆ ออกมามายมายเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้ให้เราได้ค้นพบกันไม่หยุดหย่อน ตัวอย่างเช่น ในช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดทางทีมแพทย์พยายามที่จะรักษาชีวิตของผู้ป่วยด้วยการพุ่งเป้าไปที่การรักษาปอดและระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก เพราะบางคนดูคลิปหลุดแทบไม่ไหว หายใจลำบาก แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นกลับพบข้อมูลหลักฐานใหม่ว่าผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนหนึ่งเริ่มมีอาการทางระบบประสาทและจิตเวชเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาการเหล่านี้ก็ได้เพิ่มความวิตกและน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทำเอาหลายคนกังวลจนดูคลิปหลุดไม่ไหว
อาการทางสมองและระบบประสาท ความน่ากลัวของ COVID-19 ที่ไม่ควรมองข้าม
ได้มีนักประสาทวิทยาจาก University of California ได้ให้ความเห็นไว้เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2563 ว่าสาเหตุที่อาการทางประสาทเป็นผลมาจากโควิด-19 เป็นสิ่งที่น่ากลัวเพราะที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นโรคระบาดชนิดใดที่จะนำไปสู่โรคทางระบบประสาทและจิตเวชมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็น อาการเลือดออกในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง การสูญเสียความทรงจำและภาวะสมองทำงานผิดปกติ จนถึงอาการผิดปกติเวลาดูคลิปหลุด ฯลฯ
COVID-19 ก่อให้เกิดอาการทางสมองและระบบประสาทได้อย่างไร
ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์และทีมแพทย์แพทย์ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าไวรัส SARS-CoV-2 เข้าไปทำลายสมองได้อย่างไร แต่ก็ได้มีหลักฐานส่วนหนึ่งที่น่าเชื่อถือทำให้เชื่อว่าอาการทางประสาทและสมอง อาจเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อรุนแรง หรือนักวิจัยอีกส่วนหนึ่งก็ให้คำอธิบายในทำนองเดียวกันว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ร่างกายจะตอบสนองต่อการอักเสบด้วยการสร้างโปรตีนไซโตไคน์ (Cytokines) ขึ้น ในขณะเดียวกัน ไวรัส SARS-CoV-2 จะทำให้เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่กั้นระหว่างเลือดกับสมองอ่อนแอลงจึงทำให้โปรตีนไซโตไคน์หลุดผ่านเข้าไปสะสมในสมองส่วนกลาง และเมื่อไซโตไคน์เข้าไปยังไฮโพทาลามัส ในบริเวณด้านล่างของสมองส่วนหน้าที่มีจำนวนเซลล์ประสาทส่วนมากมีส่วนในการทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนประสาทหลายชนิด การสะสมของไซโตไคน์ก็อาจจะส่งผลต่อไปยังการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ส่งผลต่อการนอนหลับ ความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ การรับรู้และการควบคุมอารมณ์ ซึ่งอาการดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นหลังที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ไม่นาน หรืออาจจะเป็นจากอาการในระยะยาวถึงแม้ว่าร่างกายจะหายจากอาการป่วยโรคโควิด-19 แล้วก็ตาม